ว่าที่ร้อยตรีสมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ (สกช.) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2559 จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเครือข่ายเกษตรกรอาสาพัฒนาประชารัฐระดับหมู่บ้านและชุมชนปี 2561 ต่อยอดร่วมในการทำความเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างวันที่ 22 – 23 มีนาคม 2561 ณ โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ
โดยมีสาระสำคัญคือ เพื่อประสานความร่วมมือดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้านและชุมชน , ให้ความรู้โทษภัยยาเสพติดแก่เกษตรกร , พัฒนาเกษตรกรเป็นแกนนำเฝ้าระวัง ป้องกันปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน , มีส่วนร่วมในการชักชวนแนะนำ เข้าสู่กระบวนการบำบัดและช่วยเหลือเยียวยาหลังบำบัด , และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์นโยบายแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนหมู่บ้าน โดยสภาเกษตรกรจังหวัดแต่ละจังหวัดจะเลือกพื้นที่เป้าหมายเพื่อทำงานร่วมกับ ปปส.ภาคทั้ง 9 ภาค ตั้งแต่เดือน เมษายน – กันยายน 2561 ประเมินและรายงานผล เพื่อเป็นข้อมูลและโมเดลที่จะดำเนินโครงการขยายผลต่อไปในปี 2562
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก ปปส.ได้เผยถึงสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทยพบว่ายังมีความรุนแรง ซึ่งรัฐบาลได้ยกระดับเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศในแผนพัฒนาชาติ 20 ปี ความรุนแรงของปัญหายาเสพติดยังอยู่ในกลุ่มเด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 24 ปี พบว่าเด็กกลุ่มนี้ 45% ถูกจับกุมคดียาเสพติด และ 75% เข้ารับการบำบัดยาเสพติด ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมได้จะกลายเป็นปัญหาอย่างมากกับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต สภาเกษตรกรฯมีเครือข่ายเกษตรกรทุกหมู่บ้านจะให้ความร่วมมือกับ ปปส.แต่ขอเน้นย้ำว่าสภาฯ ไม่ได้เข้าไปช่วยในเรื่องของการชี้เบาะแสหรือการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด แต่เครือข่ายเกษตรกรจะช่วยเรื่องของการป้องกัน รณรงค์ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ชุมชนตระหนักถึงพิษภัยยาเสพติด และสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้บุตรหลานของเกษตรกรหรือประชาชนในพื้นที่ได้ตระหนักถึงพิษภัยและไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากสามารถนำพาให้เด็กเยาวชน บุตรหลานสนใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมในหมู่บ้าน/ชุมชนเพิ่มขึ้น เชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืน
บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมสาธิตการปักดำ โดยใช้รถดำนานั่งขับคูโบต้า ที่ติดตั้งระบบควบคุมทิศทางอัตโนมัติ Auto Guidance and Steering ในงานวันรณรงค์การใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ เพื่อการผลิตข้าวแปลงใหญ่ ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) ปี 2561 ที่จัดขึ้นโดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมีนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ นาแปลงใหญ่ บ้านทุ่งรวงทอง ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร
ในงานนี้ สยามคูโบต้า ได้มีการสาธิตการปักดำ ด้วยรถดำนานั่งขับคูโบต้า ติดตั้งระบบควบคุมทิศทางอัตโนมัติ Auto Guidance and Steering ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีการระบุพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียมมาประยุกต์ใช้ในการควบคุมทิศทางการปักดำให้มีความแม่นยำ ได้ข้าวเป็นแถวตรง มีระยะห่างที่สม่ำเสมอ ช่วยให้การดูแลรักษาในแปลงนาทำได้ง่าย และลดการใช้แรงงานในการเพาะปลูก นอกจากนี้ ยังได้นำเครื่องยนต์คูโบต้า ZT ขนาด 10 – 15.5 แรงม้าไปจัดแสดงภายในงานด้วย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์โฉมใหม่ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย
การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกของการขับเคลื่อนการทำการเกษตรอัจฉริยะในการทำนาแปลงใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม
1年1月61日农业经济指数第一季度增长与此同时,价格和收入指数有所下降。与去年同期相比<>年第一季度,稻米、木薯和玉米产品有助于农民收入,但我们相信,<>年全年收入指数将继续增长,这得益于农业政策。全球经济形势好转,天气有利于制造业。
维纳罗伊·苏帕苏克先生农业和合作社部农业经济办公室秘书长 1年第一季度(2561年2561月至19月)农业经济指数(包括农产品产量指数、农民可销售农产品价格指数和农民收入指数)的农业经济增长趋势分析结果显示,
1年第一季度农产品产量指数为2561,高于138年第一季度的1(增长2560%),其中作物产量指数上升127%,渔业部门增长8%,畜牧业增加10%。分别增长5%。
1年第一季度农民销售的农产品价格指数为2561,比126年第一季度下降1(下降2560%),其中作物价格指数下降146%,渔业类下降13%,畜牧业价格指数下降14%。
农民收入指数1年第一季度为2561,比175年第一季度下降1(下降2560%),其中畜牧业收入指数下降186个,渔业类下降6%,作物类下降9%。
我担任副秘书长塔纳农·万纳科恩先生。他还说,考虑到1年第一季度为农民创造收入的商品,谷物和粮食作物增加了2561%,主要作物包括稻米。木薯和玉米蔬菜种植群增加。由于政府为支持和解决即将到来的价格问题而制定的政策和措施,农民的收入增加。随着全球经济和全球市场对木薯等农产品的需求,木薯等农产品的需求也越来越高。18年第一季度木薯平均价格同比上涨12%(1年第一季度),包括大米产品,2561/42年度稻米销售放缓贷款计划影响了1年第一季度平均水分2560%的稻米价格,上涨了2560%,茉莉花稻谷价格上涨了61%。同比增长15%。这使农民收入在此类产品中增加。
列表
索引值
变化率(百分比)
2561年农民收入指数预计将比2560年有所增长,主要政策包括:农业生产优化学习中心、农业地图大田农业推广系统以及泰国流行可持续项目,重点是在中央和区域采取团队行动,以全面满足农民的需求,以及更好的全球经济方向。如果天气和水量继续有利于农业生产,这将对农业收入指数的持续增长产生积极影响。